ขายของในอินเตอร์เน็ต เรื่องไม่ง่าย ที่ปลายนิ้ว

อาชีพการค้าขายของบนอินเตอร์เน็ต เป็นอาชีพในฝันสุดฮิตของคนรุ่นใหม่ เพราะสามารถทำเป็นงานเสริมจากอาชีพหลักได้ และหากทำดีๆ ก็ได้เงินเยอะจนออกมาทำเป็นงานหลักได้มาหลายรายแล้ว

การขายของในอินเตอร์เน็ต ใครๆ ก็อยากขาย เพราะซื้อง่ายขายคล่อง หากมีอินเตอร์เน็ตอยู่ในมือ ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนด้านการเปิดร้าน ที่ถือว่าเป็นต้นทุนใหญ่อันหนึ่งสำหรับคนค้าขาย แต่ความยากของอาชีพการขายของในอินเตอร์เน็ต ก็มีเหมือนกัน เพราะถึงแม้เราจะมองเห็นตลาดที่กว้างขวาง แต่คนอื่นๆ ก็รอเป็นคู่แข่งเราอยู่เพื่อทำเงินเช่นกัน ทำให้ในหน้าอินเตอร์เน็ตไม่ว่าต้องการจะซื้อขายอะไร ก็หาสินค้าได้ง่ายเพียงไม่กี่คลิก การเริ่มต้นขายของบนอินเตอร์เน็ต จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนในหลายๆ ด้าน ดังนี้

สังเกตตัวเอง
ผู้ขายควรสังเกตตนเองว่า ต้องการทำอะไร หรือมีความสนใจในการขายสินค้าอะไรเป็นที่ตั้ง เพราะจะทำให้การทำงานและการหาความรู้ประกอบต่างๆ สนุกขึ้น เช่น คุณชอบแต่งรถ รู้เรื่องของแต่งรถดีที่สุด, คุณชอบแฟชั่น เครื่องประดับ มีสไตล์เป็นของตนเองที่แปลกแต่ถูกใจหลายๆคน หรือ คุณชอบทำงานฝีมือ ก็นำสิ่งเหล่านี้มาประกอบการพิจารณาในการวางแผน

แหล่งสินค้า
ลองสำรวจรอบตัวดู ว่าบ้านเราใกล้แหล่งอะไร หรือมีเพื่อนคนไหนที่อยู่ในสายงานที่เราสนใจ แล้วลองสอบถามดู เผื่อจะได้คำแนะนำเด็ดๆ ให้เรานำไปเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า แต่อย่าลืมสำรวจความต้องการของตลาด ว่ามีช่องให้เราเบียดเข้าไปในตลาดหรือไม่ โชคดีที่การค้าขายของออนไลน์ ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่หน้าร้าน ว่าต้องมีคนผ่านไปมาถึงจะอยู่รอดเท่าไหร่นัก แต่ควรเลือกสินค้าที่คนขายในแนวเดียวกันไม่เยอะจนเกินไป



















กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายในการขาย ควรกำหนดเป็นกลุ่มที่ชัดเจน เช่น “กลุ่มพนักงานออฟฟิศที่อายุไม่เกิน 35 ปี”, “กลุ่มวัยรุ่นที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย”, “แม่บ้านที่ไม่ทำงานประจำ ต้องดูแลบ้านด้วยตัวเอง” หรือ “กลุ่มคนท้อง” เป็นต้น ข้อดีของการกำหนด จะทำให้เลือกสินค้าที่เราต้องการขายได้จำกัดลงมา และเราเองก็สามารถโฟกัสกลุ่มได้ชัดเจนขึ้น การกำหนดแผนต่างๆ จะเป็นเรื่องง่ายลงเยอะ

งบประมาณ
งบประมาณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการค้าขาย ควรมีเงินลงทุนสำหรับการเปิดเว็บไซด์ และค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ส่วนเรื่องต้นทุนสินค้าหากมีงบที่จำกัด การเลือกใช้การให้ลูกค้าจ่ายก่อนส่งสินค้า คงจะเป็นวิธีที่ดี เพื่อจะได้นำกำไรส่วนที่เหลือค่อยๆ สะสมไป แต่ก็เป็นไปไม่ได้ในทุกกรณี ควรจะมีเงินสำรองเพื่อการซื้อสินค้าไว้ส่วนหนึ่ง

เลือกสินค้า
คุณสามารถใช้ความรู้ที่คุณสะสมมาจากความสนใจส่วนตัว เพื่อนำมาเป็นส่วนประกอบการเลือกสินค้านำมาขาย ทั้งด้านความคุ้มค่า ราคาต้นทุนที่ถูก รูปแบบสินค้า แนะนำว่าควรใช้สไตล์ของตนเองเป็นส่วนประกอบหลักในการเลือกสรร เพราะจะทำให้การทำงานสนุกขึ้น ลูกค้าที่สนใจในสินค้ารูปแบบเดียวกันก็จะเกิดความสนใจและซื้อได้ง่ายขึ้น คนที่มีความชอบตรงกันก็จะสามารถมาพูดคุยได้สนุก เพราะเมื่อเรามีความรู้ก็สามารถให้ความรู้แก่ลูกค้าได้ อีกทั้งสามารถนำสินค้าที่หลากหลายมาแนะนะได้อีกในอนาคต




 ทำการตลาด
1. เริ่มต้นจากการทำเว็บไซด์ หรือการใช้บริการเว็บไซด์สำเร็จรูป และช่องทางทาง Social Network ต่างๆ มาเป็นเครื่องมือ
2. การถ่ายภาพสินค้าเพื่อแนะนำให้ลูกค้าเลือกซื้อ พร้อมเขียนคำแนะนำรายการสินค้าแต่ละชิ้นให้น่าสนใจ
3. โฆษณาสินค้าลงในช่องทางต่างๆ ที่เตรียมการไว้ จัดให้เต็ม เอาให้ครบ ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, blog, หน้าเว็บ, เว็บประกาศต่างๆ
4. พูดคุยกับลูกค้า และบริการอย่างรวดเร็ว เป็นปัจจัยสำหรับการค้าขายในอินเตอร์เน็ตที่สำคัญ เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ, การสร้างลูกค้าประจำ และการบอกต่อเพื่อสร้างลูกค้าเพิ่มได้อีกในอนาคต
5. สร้างเงื่อนไขด้านการเงินให้กับลูกค้า เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกันที่ชัดเจนและแน่นอน เช่น ชำระสินค้าก่อนถึงจะส่งเท่านั้น และจะได้รับสินค้าภายในกี่วัน และควรเก็บหลักฐานการซื้อขายทุกชิ้นไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อประโยชน์การค้นหาในภายหลัง และการติดตามลูกค้าได้ด้วย
6. การส่งสินค้า เป็นข้อหนึ่งที่ควรคำนึงถึงให้ดี หากสินค้าของคุณไม่ใช่สินค้าที่แตกหักง่าย สามารถส่งได้ทางไปรษณีย์ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่แนะนำ อาจใช้บริการขนส่งอื่นๆ เช่น การส่งสินค้าทางบริษัทขนส่งต่างๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายในบ้านเรา เช่น Fedex, DHL, TNT, การส่งทางเครื่องบิน เช่น การบินไทย, นกแอร์ และ การขนส่งทางเรือ หากค้าขายกับชาวต่างชาติ
7. อย่าลืมบริการหลังการขาย ทั้งการติดตามสินค้า และการให้คำแนะนำการใช้งาน หรือการติดตามเมื่อลูกค้าขาดหาย เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงในอนาคตให้กับลูกค้าคนอื่น การสร้างความประทับใจด้วยบริการหลังการขาย ถือเป็นสิ่งสำคัญในการขายของในอินเตอร์เน็ต เพราะลูกค้าสามารถบอกต่อได้ง่ายมาก ทั้งด้านความพอใจและไม่พอใจ